วันเสาร์ ที่ 5 ตุลาคม 2024, 09:12 น.

นโยบายความเป็นส่วนตัว

โยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “นโยบาย” บังคับใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 คำนิยามภายในนโยบายฉบับนี้

  • “เว็บไซต์” หมายความว่า เว็บไซต์ชื่อว่า homelab.in.th และมีที่อยู่เว็บไซต์ที่ https://www.homelab.in.th, https://www.โฮมแล็ป.ไทย
  • “ผู้ควบคุมข้อมูล” หมายความว่า ผู้ให้บริการหรือเจ้าของ เว็บไซต์ ตามนโยบายฉบับนี้ อันได้แก่ homelab.in.th
  • “ผู้ประมวลผลข้อมูล” หมายความว่า บุคคลภายนอกซึ่งประมวลข้อมูลเพื่อประโยชน์หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูล
  • “ข้อมูล” หมายความว่า สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริงข้อมูลหรือสิ่งใดๆ ไม่ว่าการสื่อความหมายนั้นจะทำได้โดยสภาพของสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่านวิธีการใดๆ และไม่ว่าจะได้จัดทำไว้ในรูปของเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิล์ม การบันทึกภาพหรือเสียง การบันทึกโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใดที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏได้
  • “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาใดๆ ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
  • “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หรือ “Sensitive Data” หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธ์ุ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ พันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ม่านตา หรือลายนิ้วมือ ข้อมูลสหภาพแรงงาน หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ประกาศให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • “ผู้ใช้งาน” หมายความว่า ท่าน ผู้เยี่ยมชม ผู้ใช้ ผู้เป็นสมาชิกของ เว็บไซต์ ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้

ข้อ 2 สิทธิของผู้ใช้งานในการเข้าใช้งานเว็บไซต์

ตามนโยบายฉบับนี้ ผู้ใช้งานได้รับทราบถึงสิทธิของตนในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างดีแล้ว อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสิทธิของผู้ใช้งาน ดังต่อไปนี้

  • ผู้ใช้งานมีสิทธิได้รับการเปิดเผยจากผู้ควบคุมข้อมูลถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนซึ่งตนไม่ได้ให้ความยินยอม หากว่ามีกรณีเช่นว่า
  • ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น รวมถึงการขอรับข้อมูลที่ได้ส่งหรือโอนดังกล่าวโดยตรงจากผู้ควบคุมข้อมูลที่ส่งหรือโอนข้อมูลนั้นด้วย
  • ผู้ใช้งานอาจคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนได้ในกรณีดังต่อไปนี้
    • ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานด้วยความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลหรือของบุคคลอื่นซึ่งผู้ใช้งานอาจพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าผู้ควบคุมข้อมูล
    • ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลซึ่งผู้ใช้งานอาจพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าผู้ควบคุมข้อมูล
    • ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
    • ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ โดยที่การศึกษาวิจัยนั้นไม่มีความจำเป็นในการดำเนินการเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สาธารณะ
    • ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
      • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
      • เมื่อผู้ใช้งานซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นและผู้ควบคุมข้อมูลนั้นไม่มีอำนาจอื่นตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้อีกต่อไป
      • เมื่อผู้ใช้งานได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นโดยชอบด้วยกฎหมาย
      • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยยังคงเก็บรักษาเอาไว้ได้อยู่ ในกรณีดังต่อไปนี้
    • ผู้ควบคุมข้อมูลอยู่ในระหว่างการถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งผู้ใช้งานได้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบดังกล่าว
    • ข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • ในกรณีที่ผู้ใช้งานมีความจำเป็นต้องการให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอาไว้เพื่อประโยชน์ในสิทธิเรียกร้องของผู้ใช้งานเอง อันได้แก่ การก่อสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของผู้ใช้งาน การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลเพียงระงับการใช้ข้อมูลแทนการดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้ (4) ผู้ควบคุมข้อมูลอยู่ในระหว่างการพิสูจน์หรือตรวจสอบเพื่อปฏิเสธการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งผู้ใช้งานได้คัดค้านโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น
  • ผู้ใช้งานอาจร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่เกี่ยวกับการกระทำการฝ่าฝืนหรือการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูล

ข้อ 3 การเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ใช้งานรับทราบและตกลงว่าผู้ควบคุมข้อมูลอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้งานได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อนล่วงหน้า ทั้งนี้เท่าที่จำเป็นและตราบเท่าที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น

  • เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน
  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลใดๆ
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญาดังกล่าวนั้น
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลนั้น
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลหรือของบุคคลอื่นซึ่งประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญมากกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานนั้น
  • เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูล

ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลจะบันทึกการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามวรรคก่อนหน้าไว้เป็นสำคัญ

ข้อ 4 การเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเก็บรวบรวมข้อมูลอื่น

ข้อมูลอื่น” คือข้อมูลต่าง ๆ ที่ไม่เปิดเผยอัตลักษณ์ของท่านหรือไม่เกี่ยวกับตัวตนของบุคคลโดยตรง เช่น :

  • ข้อมูลเบราเซอร์และอุปกรณ์
  • ข้อมูลการใช้แอพ
  • ข้อมูลที่เก็บผ่าน cookies, pixel tags และเทคโนโลยีอื่น ๆ
  • ข้อมูลทางประชากรศาสตร์และข้อมูลอื่นที่ท่านให้ไว้ ซึ่งไม่ได้เปิดเผยอัตลักษณ์ของท่าน
  • ข้อมูลที่ได้รวบรวมมาในลักษณะที่ไม่ได้เผยอัตลักษณ์ของท่านต่อไปแล้ว

ถ้าเราจำเป็นต้องถือว่าข้อมูลอื่น เป็นข้อมูลส่วนตัวตามกฎหมายที่มีอยู่ กรณีดังกล่าวเราจะใช้และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เพื่อจุดประสงค์ที่เราจะใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ดังมีรายละเอียดในนโยบายนี้ เราและผู้ให้บริการของเราอาจเก็บข้อมูลอื่นในลักษณะต่าง ๆ อันได้แก่ :

  • ผ่านเบราเซอร์หรืออุปกรณ์ของท่าน : เบราเซอร์ส่วนใหญ่จะเก็บข้อมูลบางอย่างไว้หรือเก็บผ่านอุปกรณ์ของท่านโดยอัตโนมัติ เช่น ที่อยู่ Media Access Control (MAC) ประเภทคอมพิวเตอร์ (Windows หรือ Macintosh) ความคมชัดของหน้าจอ ชื่อและรุ่นระบบปฏิบัติการ ผู้ผลิตและรุ่นอุปกรณ์ ภาษา ประเภทและเวอร์ชั่นอินเตอร์เน็ต เบราเซอร์และชื่อและเวอร์ชั่นของบริการ (เช่น แอพ) ที่ท่านใช้อยู่ เราจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อให้มั่นใจว่าบริการใช้การได้โดยเหมาะสม
  • ผ่านการใช้แอพของท่าน ถ้ามี : เมื่อท่านดาวน์โหลดและใช้แอพ เราและผู้ให้บริการของเราจะติดตามและเก็บข้อมูลการใช้แอพ เช่น วันที่และเวลาที่แอพบนอุปกรณ์ของท่านเข้าถึงบริการของเราและข้อมูลและไฟล์ที่ได้ดาวน์โหลดไปยังแอพ โดยอาศัยตามหมายเลขอุปกรณ์ของท่าน
  • การใช้ cookies : cookies เป็นส่วนของข้อมูลที่เก็บโดยตรงบนคอมพิวเตอร์ที่ท่านกำลังใช้อยู่ cookies ช่วยให้เราเก็บข้อมูลได้ เช่น ประเภทเบราเซอร์ เวลาที่ใช้ไปในบริการ เพจที่เข้าชม ภาษาที่เลือกใช้ ตำแหน่งของไซต์และข้อมูลจราจรที่ไม่ระบุตัวตนอื่น ๆ เราและผู้ให้บริการของเราจะใช้ข้อมูลเพื่อจุดประสงค์ในการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกในการนำทาง แสดงข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและสร้าง ประสบการณ์ที่เหมาะสำหรับท่าน นอกจากนี้ เราจะรวบรวมข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับการใช้บริการเพื่อปรับปรุงการออกแบบและฟังก์ชั่นการทำงานอย่างต่อเนื่อง เข้าใจวิธีใช้และช่วยให้เราแก้ไขปัญหาสิ่งดังกล่าวได้ นอกจากนี้ cookies ยังช่วยให้เราเลือกได้ว่าโฆษณาหรือข้อเสนอใดที่ดึงดูดใจท่านมากที่สุดและแสดงโฆษณานั้นไว้ในขณะที่ท่านเข้าใช้บริการ เรายังอาจใช้ cookies หรือเทคโนโลยีอื่นในการโฆษณาออนไลน์เพื่อติดตามการตอบสนองต่อโฆษณาของเราอีกด้วย เราจะไม่ตอบสนองในการค้นหาสัญญาณที่ป้องกันการติดตามในเวลานี้ ถ้าท่านไม่ต้องการให้เก็บข้อมูลผ่านการใช้ cookies เบราเซอร์ส่วนใหญ่จะให้ท่านสามารถปฏิเสธ cookies ได้โดยอัตโนมัติหรือสามารถปฏิเสธหรือยอมรับ cookies บางอย่าง (หรือ cookies ต่าง ๆ) จากบางเว็บไซต์ได้  อย่างไรก็ตามถ้าท่านไม่ยอมรับ cookies ท่านอาจพบความไม่สะดวกในการใช้บริการได้ ท่านอาจไม่รับโฆษณาหรือข้อเสนออื่นจากเราที่เกี่ยวกับความสนใจและความต้องการของท่านได้ด้วย
  • การใช้ pixel tags และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน : pixel tags (หรือที่รู้จักกันว่าเป็น web beacons และ clear GIFs) อาจใช้เพื่อติดตามการดำเนินการของผู้ใช้บริการ (รวมถึงผู้รับอีเมล) วัดความสำเร็จของแผนการตลาดและรวบรวมสถิติเกี่ยวกับการใช้บริการและอัตราการตอบรับ
  • เราจะใช้บริการ Google Analytics ซึ่งใช้ cookies และเทคโนโลยีที่คล้ายกันในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการและรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมและแนวโน้ม บริการนี้ยังอาจเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์  แอพและแหล่งออนไลน์อื่น ท่านสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับหลักปฏิบัติของ Google ได้โดยเข้าไปที่ www.google.com/policies/privacy/partners/ และเลือกสิ่งดังกล่าวโดยดาวน์โหลด Google Analytics opt-out browser add-on ซึ่งมีอยู่ที่ https://tools.google.com/dlpage/gaoptout
  • IP Address : IP address ของท่านคือหมายเลขคอมพิวเตอร์ของท่านที่ได้รับโดยอัตโนมัติจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตของท่าน (ISP) โดยที่ IP address จะถูกบ่งชี้และล็อกโดยอัตโนมัติใน server log file ของเราเมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้เข้าสู่บริการ พร้อมทั้งเวลาในการเข้าชมและเพจที่ได้เข้าชม การเก็บ IP address เป็นหลักปฏิบัติมาตรฐานและเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นและบริการอื่น ๆ จำนวนมากจะทำโดยอัตโนมัติ เราใช้ IP address เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ เช่น คำนวณระดับการใช้ วินิจฉัยปัญหาเซิร์ฟเวอร์และบริหารการบริการ นอกจากนี้ เรายังทราบตำแหน่งของท่านจาก IP address อีกด้วย
  • ตำแหน่งทางกายภาพ/ตำแหน่งไซต์ : เราจะเก็บตำแหน่งทางกายภาพของอุปกรณ์ของท่าน ตัวอย่างเช่น  การใช้ดาวเทียม เสาสัญญาโทรศัพท์มือถือหรือสัญญาณ WiFi เราจะใช้ตำแหน่งทางกายภาพของอุปกรณ์ของท่านเพื่อให้บริการและเนื้อหาโดยอาศัยตำแหน่งส่วนตัว นอกจากนี้ เรายังแชร์ตำแหน่งทางกายภาพของอุปกรณ์ของท่าน ผสมผสานกับข้อมูลเกี่ยวกับโฆษณาที่ท่านเข้าดูและข้อมูลอื่นที่เราเก็บรวบรวมไว้ เพื่อให้แก่หุ้นส่วนทางการตลาดของเราเพื่อให้พวกเขาสามารถให้บริการเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของท่านมากขึ้นและเรียนรู้ประสิทธิภาพของแผนการโฆษณา ในบางกรณี ท่านอาจอนุญาตหรือปฏิเสธการใช้และ/หรือการแชร์ตำแหน่งอุปกรณ์ของท่าน แต่ถ้าหากท่านทำเช่นนั้น เราและ/หรือหุ้นส่วนทางการตลาดของเราอาจไม่สามารถให้บริการและเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของท่านได้

เราอาจใช้และเปิดเผยข้อมูลอื่นเพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ยกเว้นกรณีที่เราจำเป็นต้องกระทำอย่างอื่นตามที่กฎหมายกำหนด ในบางกรณี เราอาจนำข้อมูลอื่นรวมเข้ากับข้อมูลส่วนตัว กรณีดังกล่าว เราจะถือว่าข้อมูลที่นำมารวมเข้าด้วยกันเป็นข้อมูลส่วนตัว ตราบเท่าที่นำมารวมกันอยู่

ข้อ 5 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

ผู้ควบคุมข้อมูลอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไปยังต่างประเทศได้ในกรณีดังต่อไปนี้

  • ประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามที่กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่ผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับแจ้งและรับทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลนั้นแล้ว
  • เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญานั้นหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
  • เป็นการกระทำการตามสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลกับบุคคลอื่นโดยเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหรือบุคคลใดๆ เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

ข้อ 6 การแจ้งเตือนเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลทราบถึงการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะมีการละเมิดโดยบุคคลใด ผู้ควบคุมข้อมูลจะดำเนินการดังต่อไปนี้

  • ในกรณีมีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลใดๆ ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ชักช้าเท่าที่จะสามารถกระทำได้ภายใน 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุ
  • ในกรณีมีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบอย่างสูงต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลใดๆ ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวและแนวทางการเยียวยาต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและต่อผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น โดยไม่ชักช้าเท่าที่จะสามารถกระทำได้ภายใน 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุ

ข้อ 7 การร้องเรียนและการแจ้งปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ใช้งานอาจร้องเรียนและรายงานปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลแก้ไขปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและ/หรือให้ถูกต้อง การคัดค้านการเก็บรวบรวมข้อมูล หรือระงับการใช้ข้อมูล ได้ที่ช่องทางอีเมล ad***@ho*****.th

ข้อ 8 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย

ผู้ควบคุมข้อมูลอาจแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อความในนโยบายฉบับนี้ได้ ไม่ว่าเวลาใดก็ตาม และไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราวเพื่อให้ผู้ใช้งานได้พิจารณาและดำเนินการยอมรับด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด และหากว่าผู้ใช้งานได้ดำเนินการเพื่อยอมรับนั้นแล้วให้ถือว่านโยบายที่แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายฉบับนี้ด้วย อนึ่ง ผู้ใช้งานอาจเข้าถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีการแก้ไขและเปลี่ยนแปลงล่าสุดได้จากแหล่งที่ผู้ควบคุมข้อมูลจัดแสดงไว้จากช่องทาง ดังต่อไปนี้ https://www.homelab.in.th/privacy-policy/

Recent News

หวัดดี! ยินดีต้อนรับกลับมา

ลงชื่อเข้าใช้งานด้านล่าง

สร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่!

กรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อลงทะเบียน

เปลี่ยนรหัสผ่านของคุณ

กรุณาพิมพ์ชื่อผู้ใช้งานหรืออีเมลของคุณเพื่อเปลี่ยนรหัสผ่าน